โดดเด่นไม่เหมือนใคร ถูกใจสิ่งแวดล้อม กับ รถสามล้อบรรทุกไฟฟ้า SUMOTA

ในปัจจุบัน รถสามล้อบรรทุกทั้งพลังงานไฟฟ้าและน้ำมัน กำลังเริ่มเป็นที่นิยม  ในประเทศไทย  ทำให้มีความต้องการเพิ่มมากขึ้น ตลาดใหญ่ขึ้น ผู้ขายก็มากขึ้นเช่นเดียวกัน  ทำให้มีรถหลากหลายแบรนด์มากมายในตลาด  เราจะมีวิธีในการเลือกซื้อรถสามล้อบรรทุกอย่างไรดี?  วันนี้บทความนี้มีคำตอบครับ

ข้อที่ 1. เครื่องยนต์ และ ระบบระบายความร้อน 

ถ้าพูดถึงเครื่องยนต์ ให้ดูที่ ปริมาตรกระบอกสูบ  เพราะปริมาตกระบอกสูบจะเป็นตัวบ่งวัดน้ำหนักบรรทุกของตัวรถ และกำลังของตัวรถครับ  ปริมาตรกระบอกสูบควรไม่ต่างจากเครื่องยนต์ที่โฆษณาไม่เกิน +- 2เช่น ถ้ารถสามล้อบรรทุกโฆษณาเครื่องยนต์ 130 ซีซี  ปริมาตกระบอกสูบก็ไม่ควรต่ำกว่า 128 ครับ  

โดยส่วนมากปริมาตกระสอบสูบจะไม่อยู่ในสเป็คที่โฆษณาหรือในโบชัว แต่จะมีเขียนติดอยุ่ที่เครื่องยนต์ของรถสามล้อบรรทุกเลยครับ เพราะถ้า ปริมาตรกระสอบสูบไม่ตรงกับตัวเครื่องยนต์ที่ทางผู้ขายแจ้งแปลว่าเรา โดนโกงเครื่อง แล้วครับ  หรือก็คือ ผู้ขายไม่ได้ให้เครื่องยนต์ตรงตามสเป็คที่โฆษณาหรือแจ้งไว้นั่นเองครับ    เรื่องความร้อนนี่สำคัญมาก เพราะประเทศไทยมีอากาศร้อนตลอดปี ถ้าระบบระบายความร้อน นี่แนะนำว่าต้องเป็นระบบระบายความร้อนด้วยน้ำ หรือจะเป็น dual cooling system นี่ยิ่งดีเลย เพราะจะยิ่งระบายความร้อนได้ดี  เพราะ ถ้าเครื่องยนต์ไม่มีหม้อน้ำ ละก้เจอหน้าร้อนไปรถสามล้อบรรทุกวิ่งๆไปแล้วความร้อนเกิน ตายกลางทาง คงไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นใช่ไหมละครับ?

ข้อที่ 2.  น้ำหนักบรรทุกของรถสามล้อบรรทุก

น้ำหนักบรรทุกของรถสามล้อบรรทุก เคล็ดลับการคำนวณง่ายๆ ให้ดูที่ ขนาดของกระบะ ส่วนมากจะต่างกันที่ความยาวของกระบะ ความกว้างจะใกล้เคียงกัน  สูตรง่ายๆเลยก็คือ ถ้า รถสามล้อบรรทุก จะบรรทุกได้ 500 กก.  จะต้องมีความยาวกระบะไม่ต่ำกว่า 1.5-1.6 เมตร   ส่วนถ้า บรรทุก 1ตัน ก็จะต้องมีความยาวกระบะประมาณ 1.8-2.0 เมตร ครับ ถ้าผู้ขายบอกท่านว่า รถบรรทุกได้ 500กก. แต่ตัวรถยาวแค่ 1.2 เมตร อันนี้บอกเลยว่า โดนโกงอีกเช่นกันครับ  เพราะ ขนาดกระบะไม่สอดคล้องกับน้ำหนักที่รถบรรทุกได้เลย

ข้อที่ 3.  ระยะทางการวิ่ง ของรถสามล้อบรรทุกพลังงานไฟฟ้าและน้ำมัน

อันนี้ง่ายมากเลย วิธีดู ก็คือ ดูที่ขนาดถังน้ำมันเลยครับ สำหรับรถสามล้อบรรทุกเครื่องยนต์  ขนาดถังน้ำมัน 4 ลิตรก็ วิ่งได้ 100 กิโลเมตร  ถ้าอยากวิ่งได้รระยะทางไกลก็ จัด  เลยครับ ถังน้ำมัน 20ลิตร เหมือนของรถสามล้อบรรทุก ซูโมต้า ที่วิ่งได้ ถึง 500 กิโลเมตร เลยทีเดียว   แต่ถ้าเป็น รถสามล้อบรรทุกไฟฟ้า ก็ให้ดู ที่ความจุของแบตเตอรี่กับเลยครับ ว่าสัมพันธ์กันกับ มอเตอร์หรือป่าว ยิ่งมอเตอร์แรงก็ยิ่งใช้แบตเตอรี่เยอะ ให้มองที่ความจุของแบตเตอรี่หรือ แอมป์ (ah) ของแบตเตอรี่นั่นเองครับ

ข้อที่ 4. ระบบเกียร์ทด

เคยไหมครับ  ? ขับรถสามล้อบรรทุกแล้ว ไม่มีแรง ขึ้นเขาขึ้นสะพานเนินชันๆ ลำบาก ก็เป็นเพราะว่า รถที่ไม่มีระบบเกียร์ทด หรือ มีเกียร์สโลว  จะไม่มีแรงมากพอ รถเปล่ายังไม่เป็นอะไรแต่ถ้าบรรทุกน้ำหนักด้วยแล้ว จะประสบปัญหาข้างต้นแน่นอน เพราะฉะนั่น ควรเลือกซื้อรถสามล้อบรรทุกที่มีระบบเกียร์ทดและสโลวด้วยครับ

ข้อที่ 5. แบตเตอรี่และการถ่ายน้ำมันเครื่อง

ก่อนที่ผู้ขายจะส่งรถ หรือลุกค้านำรถสามล้อบรรทุกไปใช้ ควรมีการถ่ายน้ำมันเครื่องฟลัชชิ่งก่อนเพื่อล้างสิ่งสกปรกออกจากเครื่องยนต์ เพื่อที่จะได้ยิดอายุการใช้งานของรถสามล้อบรรทุกนั่นเองครับ  และเลขไมล์ไม่ควรจะเป็นเลข 0 เพราะควรมีการ ทดสอบรถมาจากโรงงานก่อนเพื่อที่รถสามล้อบรรทุกจะได้ไม่มีปัญหา   รวมถึงเรื่อง แบตตอรี่ ผู้ขายต้องให้มาเพียงพอต่อการใช้งานของรถสามล้อบรรทุกด้วย อย่างต่ำ ควรจะ 9 แอมป์ขึ้นไป เพื่อจะได้เพียงพอ  ขับไปกลางคืนไฟหน้าดับกลางทาง เพราะแบตไม่พอก็คงไม่มีใครอยากเจอใช่ไหมครับ

ทั้งนี่ทั้งนั้น 5  ข้อนี้  รถสามล้อบรรทุกจอมพลัง Sumota ดูแลให้หมดแล้วครับ ไม่ต้องมานั่งเช็คด้วยตัวเองให้เสียเวลา  เอาง่ายๆ เลือกซื้อ รถสามล้อsumota  เลย สะดวกสบาย ได้มาตรฐาน ไม่ต้องมานั่งกังวลอีกต่อไปครับ

รถสามล้อคุณภาพดี ถูกกฏหมาย และปลอดภัยกว่า